Auto Key Insight ประจำเดือนตุลาคม 2563

   

 

 

การผลิตรถยนต์

ในเดือนตุลาคม 2563 ประเทศไทยผลิตรถยนต์จำนวน 149,360 คัน โดยเป็นการผลิตรถยนต์มากกว่าหนึ่งแสนคันติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปริมาณการผลิตยังคงลดลงร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากตลาดส่งออกเป็นสำคัญ หากพิจารณารายผลิตภัณฑ์พบว่า ปริมาณการผลิตรถยนต์ลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ยกเว้น รถ Single Cab มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 42 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และรถยนต์นั่งขนาดน้อยกว่า 1,500 ซีซี ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

ด้านการส่งออกรถยนต์ลดลงร้อยละ 17 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ดีเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว โดย ปริมาณการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการส่งออกรถกระบะ 1 ตัน ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 172 แต่อย่างไรก็ดี ปริมาณการส่งออกไปยังอเมริกาเหนือที่เพิ่มขึ้นยังไม่สามารถชดเชยการส่งออกที่ลดลงของไทยได้ เนื่องจากตลาดอเมริกาเหนือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9 จากปริมาณการส่งออกทั้งหมดของไทย นอกจากนี้ หากพิจารณารายผลิตภัณฑ์พบการส่งออกเพิ่มขึ้นของบางผลิตภัณฑ์ในบางตลาด อาทิ ปริมาณการส่งออกรถยนต์นั่งไปยังตลาดเอเชีย (สัดส่วนร้อยละ 61) เพิ่มขึ้นร้อยละ 63 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และปริมาณการส่งออกรถกระบะไปยังตลาดโอเชียเนีย (สัดส่วนร้อยละ 40) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่กล่าวมาส่งผลให้เดือนมกราคม – ตุลาคม ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตรถยนต์สะสม 1,112,426 คัน จำหน่ายสะสม 608,880 คัน และส่งออกสะสม 592,829 คัน ลดลงร้อยละ 36 27 และ 35 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

การผลิตรถจักรยานยนต์

ในเดือนตุลาคม 2563 ประเทศไทยผลิตรถจักรยานยนต์จำนวน 166,636 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยรถจักรยานยนต์ทุกประเภทมีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กของผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ภายในประเทศ ยกเว้นการผลิตรถจักรยานยนต์ Sport ขนาด 150-399 ซีซี เท่านั้นที่ลดลงร้อยละ 39 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์มีจำนวน 126,323 คัน ลดลงร้อยละ 11 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากการลดลงของการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทุกขนาด ยกเว้นจักรยานยนต์ขนาด 251-399 ซีซี ที่มีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในส่วนของการจดทะเบียนใหม่ของรถ xEV มีปริมาณ 361 คัน ลดลงร้อยละ 18 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากการจดทะเบียนใหม่ของรถ HEV จำนวน 230 คัน ลดลงร้อยละ 36 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่รถ BEV มีจำนวน 82 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

ด้านการส่งออกรถจักรยานยนต์แบ่งออกเป็นการส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) จำนวน 25,363 คัน ลดลงร้อยละ 3 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการส่งออกรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กไปยังประเทศญี่ปุ่นที่ลดลง และการส่งออกชิ้นส่วนครบชุดสมบูรณ์ (CKD) จำนวน 43,508 ชุด ลดลงร้อยละ 25 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่กล่าวมาส่งผลให้เดือนมกราคม – ตุลาคม ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตรถจักรยานยนต์สะสม 1,280,651 คัน จำหน่ายสะสม 1,272,190 คัน และส่งออกสะสม 257,160 คัน ลดลงร้อยละ 21, 13 และ 13 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ

#FOLLOW US ON INSTAGRAM