เปลี่ยนกระบวนการผลิตของคุณให้ดีกว่าเดิม…ไปกับมิตซูบิชิ อิเล็คทริคฯ
บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งมั่นเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคโนโลยีเครื่องมือเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิต จนทำให้เครื่องจักรกลของมิตซูบิชิได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมกับสภาวะภาคอุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบัน
ทาง คุณนพดล กังสชาต ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่าย Industrial Automation Machinery Division เผยว่า ใน Metalex 2020 มิตซูบิชิ อิเล็คทริคฯ ได้นำเครื่องจักรมาโชว์ 2 เครื่องด้วยกัน โดยในส่วนของ World Premier Launch จะเป็นเครื่องอีดีเอ็มรุ่น SG12 เป็นตัวใหม่ล่าสุดซึ่งมีการอัพเกรดมาจากรุ่น EA Series สำหรับเครื่องรุ่นนี้จะคุณสมบัติพิเศษคือมีโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น และเมื่อมีโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้นก็สามารถทำงานผลิตชิ้นงานที่มีขนาด ใหญ่ได้ด้วยอีกเช่นกัน ในส่วนของอิเล็กโทรดสามารถใช้ทองแดง และการ์ไฟท์ได้ในเครื่องเดียว ซึ่งกระบวนการทำงานของเครื่องรุ่นนี้จะให้พื้นผิวที่เรียบเนียน ได้ที่ 0.1 ไมครอน สำหรับเครื่องอีดีเอ็มรุ่น SG12 ถือเป็นการเปิดตัวเครื่องครั้งแรกในโลกที่งานนี้ และนับเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการจะได้สัมผัสกับเครื่องจักรที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีทั้งรูปแบบโครงสร้างที่ใหม่และตัวซอฟต์แวร์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะตัวซอฟต์แวร์ได้ถูกพัฒนาให้สามารถออกแบบชิ้นงานที่ซับซ้อนได้ และเมื่อนำไปใช้งานร่วมกับตัวเครื่องซึ่งชิ้นงานที่ผลิตออกมาจะให้งานที่มีคุณภาพมากขึ้น นับเป็นเครื่องอีดีเอ็มของมิตซูบิชิ อิเล็คทริคฯ ที่นำออกมาเสนอผู้ประกอบการไทย ณ เวลานี้
และอีกหนึ่งเครื่องที่นำออกมาโชว์คือเครื่องไฟเบอร์เลเซอร์ GX-F Series ขนาด 8,000 วัตต์ โดยได้มีการพัฒนาด้วยการนำเอาระบบ AI เข้าไปไว้ในระบบการทำงานของเครื่องไฟเบอร์เลเซอร์ ซึ่งระบบ AI Asist จะมีคุณสมบัติเป็นตัวตรวจสอบระบบการทำงานของเครื่องจักรว่าหากมีส่วนใดเกิดการชำรุดหรือมีการสึกหรอ ระบบ AI นี้จะประมวลผล และแจ้งมาทางหน้าจอควบคุมว่าควรมีการซ่อมบำรุงและจะเปลี่ยนอะไหล่เมื่อใด โดยระบบ AI จะมีการแจ้งเตือนให้ทราบ และแสดงสภาพการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆที่ยังเหลืออยู่เป็นเปอร์เซ็นต์ให้ทราบ ซึ่งระบบ AI นี้จะมีการประมวลผลและไปทำการปรับความเร็ว และปรับการใช้พลังงานหรือส่วนอื่นๆ ให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้มิตซูบิชิยังได้พัฒนาฟังก์ชันขึ้นมาใหม่เรียกว่า AGR EGO เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ลมเป็นตัวควบคุมไนโตรเจนไม่ให้แพร่กระจายออกนอกพื้นผิวงานตัด เพื่อให้ไนโตรเจนสัมผัสกับชิ้นงานโดยตรง โดยมิตซูบิชิที่ญี่ปุ่นได้มีการวิเคราะห์และสำรวจออกมาแล้วว่าสามารถช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานได้ถึง 90%
“มิตซูบิชิ อิเล็คทริคฯ ไม่ได้มีแค่เครื่องไวคัทอีดีเอ็มหรือเครื่องไฟเบอร์เลเซอร์ที่ขายอยู่เพียงเท่านั้น โดยที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางชันยังมีการผลิตเครื่องปั๊มน้ำ มิเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์ และงานชิ้นส่วนด้านฉีดขึ้นรูปอลูมิเนียมที่ใช้ในอุตสาหกรรมอีกด้วย หากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิสามารถเข้ามาติดต่อได้ที่บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริคฯ ที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน เราพร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษา ด้วยทีมวิศวกรกว่า 30 ท่าน และศูนย์เทคโนโลยีเซ็นเตอร์ไว้คอยต้อนรับท่านที่มาเยี่ยมชม ดังคำปณิธานที่ว่า “Changes for the Better””
