
Mitsubishi รวมพลัง – รวมธุรกิจสาย Industrial Automation Machine (IAM) เข้ากับส่วนของผลิตภัณฑ์ Factory Automation
กลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ มีนโยบายรวมผลิตภัณฑ์ประเภท Factory Automation ให้อยู่ในบริษัทเดียวกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาวและเพิ่มโอกาสและความก้าวหน้าทางธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น จึงได้โอนย้ายกิจการบางส่วนของบริษัทอันได้แก่ธุรกิจ Industrial Automation Machine (IAM) ซึ่งให้บริการด้านงานขายและงานบริการหลังการขาย เช่น เครื่องเลเซอร์ (Laser Machine) และเครื่องจักรประเภทเครื่องกัดชิ้นงานด้วยกระแสไฟฟ้า (Electric Discharge Machine) ไปยัง บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จํากัด (MELFT) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ประกอบกิจการค้าและบริการผลิตภัณฑ์ประเภท Factory Automation อันเป็นธุรกิจประเภทเดียวกัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567
คุณวิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น ประเทศไทย จำกัด (MELFT) เผยว่า จากการรวมธุรกิจในสาย Industrial Automation Machine (IAM) เข้ากับส่วนของผลิตภัณฑ์ Factory Automation นั้นถือเป็นการรวมพลังขององค์กรและยุทธศาสตร์ของบริษัทให้แข็งแกร่งและเด่นชัดยิ่งขึ้นในมุมมองของภาคอุตสาหกรรมเองและในตัวองค์กรเอง เพราะไม่ว่าจะเป็น Industrial Automation Machine และ Factory Automation นั้น รวมกันแล้ว ถือว่าจะเป็นการนำเสนอ Total Solutions ให้กับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการรวมกิจการครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของหนทางสู่ความสำเร็จ ที่จะทำให้องค์กรมุ่งสู่การเป็น Circular Digital Engineering Company. (ซึ่งการ Transform to Circular Digital Engineering นั้น ก็เป็น Vision ขององค์กรอยู่แล้ว)
“เรามี Vision องค์กรที่ชัดเจน คือการ Transform องค์กรสู่ Circular Digital Engineering นั้นคือยุทธศาสตร์การบริหารองค์กรโดยมุ่งเน้นในการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ Intangible Assets ทั้ง 4 นั่นคือ (1) Technological Assets ซึ่งก็หมายถึงผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องสินค้า IAM ก็ถือเป็นสินค้าสำคัญอีกกลุ่มที่สามารถมาเติมเต็มให้บริษัทของเราในประเทศไทย (2) Partner Assets ซึ่งหมายถึงกลุ่มพันธมิตรเดิมในธุรกิจในสาย Factory Automation ประมาณ 80 บริษัท แต่หลังจากรวมกันแล้ว คาดว่าเราจะมีกลุ่มพันธมิตรเพิ่มขึ้นอีก รวมแล้วมากกว่า 100 บริษัท (3) Customer Assets ซึ่งหมายถึง ฐานของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม ที่เรา Focus จะขยายกว้างยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคอัจฉริยะ (หมายถึงสินค้าอิเล็คทรอนิคตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ) (4) Sale & Service Team Assets ซึ่งหมายถึง ทีมงานของเราเอง จะสามารถ Utilize ความรู้ความสามารถที่เพิ่มขึ้น เพื่อเอามาพัฒนาองค์กรของเรา ให้ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมหลักๆ ในประเทศไทยได้มากขึ้นทั้งในเชิงความหลากหลายของชนิดอุตสาหกรรม และพื้นที่ของแต่ละอุตสาหกรรมที่กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย”
ตอบโจทย์ด้วยโซลูชั่นส์แห่งอนาคต…พร้อมงานบริการที่ครบวงจรแก่คู่ค้า
ด้าน คุณนพดล กังสชาต ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (MELFT) กล่าวว่า จากประสบการณ์การขายเครื่องจักร EDM Wire Cut และ Laser Machine มา 20 กว่าปี ผมมองเห็นโอกาสที่จะพัฒนาด้านงานบริการให้กับลูกค้าของเราและลูกค้าใหม่ที่จะสามารถเข้ามาเรียนรู้และเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตไปพร้อมๆ กับเราได้ นโยบายการบริการต่างๆ ผมจะนำสิ่งที่คุณวิเชียรพูดไว้ และแนะนำมาปฏิบัติ เพราะจะทำให้การขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นและจะทำให้เรากลายเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีในประเทศไทยได้ในอนาคต เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบริการหลังการขาย เมื่อมีการรวมผลิตภัณฑ์ประเภท Factory Automation เข้าด้วยกันแล้ว ก็เปรียบเสมือนเรามีความพร้อมทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะด้าน Digital Marketing CNC และระบบ Automation แม้กระทั่งการดูแลและแก้ไขอุปกรณ์ต่างๆ ก็จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรวดเร็วขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เราดูแลอยู่และลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามา และทำให้ลูกค้ามั่นใจในความเอาใจใส่ของเรา
“ไม่ว่าลูกค้าเดิมหรือลูกค้าที่กำลังจะเป็นลูกค้าใหม่ของเรานั้นจากประสบการณ์การดูแลบริการหลังการขายของเรา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทีมวิศวกร และการเปิดอบรมสัมมนาด้านการใช้งานของเครื่องจักรและการดูแลรักษาเครื่องที่เราทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้วนั้นเรายังมีความพร้อมมากยิ่งๆ ขึ้น เมื่อเรารวมผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกันแล้วในส่วนของการบริการหลังการขายจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เพราะเรามีความพร้อมด้านวิศวกรของทุกๆ ส่วนงานมารวมอยู่ ณ ที่เดียวกัน ซึ่งจากที่ผ่านมา เราสามารถสร้างบุคลากรของลูกค้าของเราให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น ซึ่งเราวัดจากการใช้บริการหลังการขาย ผ่านระบบ Line Official ที่เราสามารถสื่อสารตอบปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ผู้ใช้เครื่องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจถึงการดูแลรักษาเครื่องจักรด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่า Mitsubishi นั้นมีความแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด”