IND จุดพลุรับข่าวดี! กำไร 9 เดือนพุ่งกระฉูดกว่า 210% แถมดวงเฮง คว้างานซ่อมบำรุงคลังน้ำมันพิจิตร หนุนผลงานอนาคตโตเต็มพิกัด

 

 

 

 

บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) เปี่ยมล้นด้วยศักยภาพ อวดกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกปี 2565 เท่ากับ  21.13 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 40.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 210.85 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 19.06 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 403.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188.55 ล้าบาท หรือเพิ่มขึ้น 87.52 % ล่าสุดมือขึ้นคว้างานบริการซ่อมบำรุงและรักษาระบบ ATG ระบบ TAS ระบบ PLC และระบบ SCADA คลังน้ำมันพิจิตรจาก บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด ฟาก “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” ประเมินโค้งสุดท้ายผลงานส่งสัญญาณบวก  รับอานิสงส์อุตสาหกรรมก่อสร้างภาครัฐคึกคัก หนุนงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาเพียบ ปักธงลุยประมูลงานใหม่เพิ่มเติมเสริมเขี้ยวเล็บเต็มสูบ มั่นใจผลงานทั้งปีโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 20-25%

 

 

 

ดร.พรลภัส ณ ลำพูน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND   เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2565  (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565) ของบริษัท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 21.13  ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 40.19  ล้านบาท หรือคิดเป็น 210.85 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 19.06 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการให้บริการจำนวน 403.98  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 188.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 87.52 %  จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 215.43 ล้านบาท

 

 

 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้นจากการเร่งรัดให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง  ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ และยังทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ  2,428.80  ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)  ซึ่งช่วยสนับสนุนให้การเติบโตรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

 

 

 

ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสัญญากับ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด เพื่อบริการซ่อมบำรุงและรักษาระบบ Automatic Tank Gauging System (ATG) ระบบ Terminal Automatic System (TAS) ระบบ Programmable Logic Controller (PLC) และ ระบบ Supervisory Control and Data Acquisition (SCADA) ณ คลังน้ำมันพิจิตร  มูลค่าสัญญาประมาณ 805,496 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี

 

 

 

“บริษัทฯ คาดหวังว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2565 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อนที่รายได้และกำไรเติบโตเป็นที่น่าพอใจ เพราะบริษัททยอยรับงานใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาตั้งแต่ต้นปี ส่งผลทำให้มีมูลค่างานในมือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังคงมีนโยบายเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพื่อผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”  ดร.พรลภัสกล่าวในที่สุด

#FOLLOW US ON INSTAGRAM